การทางพิเศษแห่งประเทศไทยร่วมกับ จ.สุราษฎร์ธานี จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 งานศึกษาความเหมาะสมโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (ผลการคัดเลือกแนวเส้นทางที่เหมาะสม) งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย โดยมีโดยมี นายศรีธรรม ราชแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานเปิดการประชุมฯ มีผู้เข้าร่วมการประชุมฯครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน องค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา นักวิชาการอิสระสื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจประมาณ 200 คน 

สืบเนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีนโยบายให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ กทพ. บูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อให้การพัฒนาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง โครงการทางหลวงชนบท และโครงการทางพิเศษในอนาคตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในภาพรวมต่อประเทศและประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวก ปลอดภัย ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเพื่อให้การบูรณาการ การพัฒนานวัตกรรม การบริหารจัดการแบบ Single Command การเชื่อมโยงข้อมูล และการแก้ไขปัญหาการจราจรโครงข่ายทางถนนดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบคอบและมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม โดยมี กทพ. เป็นผู้ดำเนินโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย

งานศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ การเงิน และผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย ครอบคลุมการดำเนินงาน ดังนี้ 

  1. เพื่อศึกษาความเหมาะสมทางด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ และการเงิน
  2. เพื่อสำรวจและออกแบบเบื้องต้น และออกแบบกรอบรายละเอียด
  3. เพื่อศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
  4. เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ความเหมาะสมการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการ
  5. เพื่อจัดทำการทดสอบความสนใจของนักลงทุน (Market Sounding)
  6. เพื่อจัดทำกรอบสาระสำคัญเอกสารข้อเสนอเชิญชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนและร่างสัญญานี้ 

เมื่อดำเนินการศึกษาฯ แล้วเสร็จและนำไปสู่การพัฒนาโครงการ ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทางสู่เกาะสมุย รวมไปถึงเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการคมนาคมและเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางไปยังเกาะสมุย และส่งเสริมการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น โดย กทพ. ได้มอบหมายให้กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท เอเชี่ยน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นส์ จำกัดบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท เอพซิลอน จำกัด และบริษัท เทสโก้ จำกัด ดำเนินการศึกษาฯ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 ถึง วันที่ 15มีนาคม 2569 มีระยะเวลาดำเนินการศึกษา 36 เดือน(1,080 วัน) และคาดว่าจะสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี พ.ศ. 2572 และเปิดให้บริการปลายปี พ.ศ. 2576

ในช่วงที่ผ่านมา กทพ. และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษาได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม การกำหนดแนวสายทางเลือกที่มีความเป็นไปได้ การเปรียบเทียบข้อดีและข้อด้อยของแต่ละแนวสายทางเลือก ควบคู่ไปกับการดำเนินงานการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งในระดับส่วนกลาง ระดับจังหวัด และระดับพื้นที่ โดยได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และนายอำเภอเกาะสมุย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อแนะนำโครงการและรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อการดำเนินโครงการ นอกจากนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อจำกัดด้านกายภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และข้อกฎหมายของพื้นที่เพื่อกำหนดแนวสายทางเลือก โดยได้แนวสายทางเลือกที่มีความเป็นไปได้ 7 แนวสายทาง ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดนครศรีธรรมราช ต่อมาได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) ระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม 2566 ใน 3 พื้นที่ และจัดการประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 1 ใน 11 พื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อห่วงกังวลต่าง ๆ เพื่อนำมาประกอบการคัดเลือกแนวเส้นทางที่มีความเหมาะสมที่สุด เพื่อนำไปศึกษา สำรวจ และออกแบบในรายละเอียดต่อไป ซึ่งจากการพิจารณาเปรียบเทียบข้อจำกัดด้านกายภาพและข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมบริเวณจุดเริ่มต้นโครงการ ในพื้นที่อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงจุดสิ้นสุดโครงการบนเกาะสมุยแล้ว โดยการให้คะแนนตามปัจจัยหลัก3 ด้าน ได้แก่ ด้านวิศวกรรมและการจราจร ด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการลงทุน ด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากภาคส่วนต่าง ๆ แล้ว สรุปว่า ผลคะแนนการคัดเลือกแนวสายทางที่มีความเหมาะสมมากที่สุด คือ แนวเส้นทางที่ 6 โดยมีจุดเริ่มต้นบริเวณ กม. 4+900 ของทางหลวงชนบทหมายเลข นศ.4044 ในพื้นที่ตำบลท้องเนียนอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เข้าเชื่อมเกาะสมุยบริเวณช่วงท้ายของหาดท้องกรูด กม.9+000 ของทางหลวงหมายเลข 4170 ในพื้นที่ตำบลตลิ่งงาม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีระยะทางรวม 25.04 กิโลเมตร

นอกจากนี้ กทพ. ได้คำนึงถึงประโยชน์ในการเชื่อมโยงทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุยกับทั้งพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สามารถเดินทางเชื่อมต่อทางพิเศษได้สะดวกรวมถึงส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่ทางพิเศษให้ครอบคลุม จึงได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะทำถนนเข้าเชื่อมทางพิเศษ (Access Road) โดยมีจุดเชื่อมต่อบริเวณ กม. 14+500 ของทางหลวงหมายเลข 4142 ในพื้นที่ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสักจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเชื่อมต่อบริเวณ กม.35+700 ของทางหลวงหมายเลข 4142 ในพื้นที่ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีระยะทาง 11.80กิโลเมตร ทั้งนี้ ถนนเข้าเชื่อมทางพิเศษ (AccessRoad) กับแนวเส้นทางที่ 6 ซึ่งเป็นแนวสายทางเลือกของทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุยที่มีความเหมาะสมที่สุด จะมีระยะทางรวมประมาณ 37.32 กิโลเมตร มีจุดขึ้น-ลง 2 แห่ง ได้แก่ บริเวณ กม.35+700 ของทางหลวงหมายเลข 4142 ในพื้นที่ตำบลควนทอง อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และบริเวณ กม. 14+500 ของทางหลวงหมายเลข 4142 ในพื้นที่ตำบลดอนสัก อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ จังหวัดนครศรีธรรมราช รวมถึงผู้ใช้ทางสามารถใช้ทางพิเศษได้สะดวกมากขึ้น

สำหรับรูปแบบเบื้องต้นของโครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย จะเป็นสะพานทอดยาวในทะเล โดยถนนมีขนาด 4 ช่องจราจร และเชื่อมต่อกับถนนเข้าเชื่อมทางพิเศษ (Access Road) ซึ่งเป็นถนนระดับดิน โดยจะนำไปออกแบบกรอบรายละเอียดเบื้องต้น และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งดำเนินงานการมีส่วนร่วมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในระยะต่อไป ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจข้อมูลข่าวสารของโครงการ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์ www.samuibridge.com ทางเฟซบุ๊ก โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางไลน์กลุ่ม Samui bridge