เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.00 น. ณ หอประชุม 0101 ชั้น 1 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. และ นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงโครงการศึกษาแนวทางการลงทุนเพื่อร่วมกันพัฒนาและประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ภายในอสังหาริมทรัพย์ของ กทพ.
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า การลงนามในบันทึกข้อตกลงฯ ระหว่าง กทพ. และบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ในวันนี้ เป็นการร่วมกันพัฒนา และประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ รวมถึงร่วมมือ สนับสนุน และแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจอื่น ๆ จากทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้การศึกษาดังกล่าวสามารถพิสูจน์ผลสัมฤทธิ์และความเป็นไปได้ ในการใช้งานจริงในพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ของ กทพ. ตามที่คณะทำงานของทั้งสองฝ่ายจะกำหนดร่วมกัน เพื่อดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ ฉบับนี้ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตจำนงร่วมกัน ระหว่างการทางพิเศษฯ และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายละเอียกว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการร่วมกันศึกษาและพัฒนาแนวทางการลงทุน การประกอบธุรกิจเชิงพาณิชย์ภายในอสังหาริมทรัพย์ของการทางพิเศษ ทั้งนี้ OR พร้อมสนับสนุน องค์ความรู้ด้านการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจภายในพื้นที่ศักยภาพ เพื่อสร้างโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจอื่น ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ร่วมกัน
“กทพ. ดีใจที่ได้เห็นการดำเนินงานร่วมกันในการผลักดันโครงการที่จะเกิดขึ้นภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ นี้ โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจอื่น ๆ จากทรัพย์สินของทั้งสองฝ่าย เผยแพร่ความร่วมมือดำเนินงานสู่สาธารณะ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคส่วนต่าง ๆ ในอนาคต และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือร่วมใจกันจนเป็นที่มา ของพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงฯ ครั้งนี้ และขอให้การดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงฯ นี้ สำเร็จลุล่วง ราบรื่น ปราศจากปัญหาอุปสรรคใด ๆ และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกท่านนำพาภารกิจ ให้สำเร็จครบถ้วนทุกประการ” นายสุรเชษฐ์ฯ กล่าวในท้ายที่สุด