เมื่อต้องไปเรียนที่ต่างแดน ทำให้เกิดมุมมองใหม่ๆ จากการทับซ้อนทางวัฒนธรรม, สิ่งแวดล้อมที่ต่างออกไป และอัตลักษณ์ส่วนบุคคลที่เกิดจากประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้พบเจอมา เป็นที่มาของนิทรรศการ “The Duality of Home” งานแสดง ผลงานศิลปะที่สะท้อนความหมายของการเดินทางข้ามผ่านวัฒนธรรมตามแบบฉบับนักเรียนศิลปะและการออกแบบในสหรัฐอเมริกา ทั้งภาพวาด, เซรามิค, ผ้าและสิ่งทอ, การออกแบบผลิตภัณฑ์, เฟอร์นิเจอร์, ภาพพิมพ์ และอื่นๆ พร้อมชวนให้ทุกคนหาความหมายของคำว่า “บ้าน” ในความหมายและรูปแบบของตัวเอง จัดโดย Thai Creative Student Collective (TCSC) องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และเครือข่ายนักเรียนไทยด้านศิลปะและการออกแบบในสหรัฐอเมริกา จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-20 สิงหาคม 2566 ณ Slowcombo ชั้น 3ซอยจุฬา 50 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยมีท่านทูตธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เป็นประธานเปิดงาน และ ณัฐณิชา กิติยากร ณ อยุธยา, ณัชชา ภักดีกิจเจริญ เเละ ปพนวิทย์ วณิชประภา ผู้ร่วมก่อตั้ง Thai Creative Student Collective (TCSC) ให้การต้อนรับ พร้อมด้วย เพลินจันทร์ วิญญรัตน์, ชาลินี – วรธีร์ กิติยากร ณ อยุธยา, อัปสรศิริ จุณณานนท์, ม.ล. ศศิภา – ม.ล.จันทราภา – ม.ร.ว. พร้อมฉัตร – ม.ร.ว. ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์, คริสโตเฟอร์ เฟิรน์, นุติ์ นิ่มสมบุญ, คล้ายเดือน สุขะหุต, กาณฑ์ มาเสถียรวงศ์, อริสรา ชาญวีรกูล ปราชญ์ – ชลทิพย์ กำภู แสงรัตน์, พรทิพย์ อรรถการวงศ์, ธีรพจน์ ธีโรภาส, กรพัฒ รุดดิษฐ์, จิตรญา ตรีสรณาคม ร่วมงานเปิดนิทรรศการ ณ Slowcombo ชั้น 3 ซอยจุฬา 50 เมื่อวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2566
ณัฐณิชา กิติยากร ณ อยุธยา, ณัชชา ภักดีกิจเจริญ เเละ ปพนวิทย์ วณิชประภา ผู้ก่อตั้งร่วมของ Thai Creative Student Collective (TCSC) เล่าว่า TCSC เกิดขึ้นจากการรวมตัวของนักเรียนไทยด้านศิลปะและการออกแบบจาก Rhode Island school of design (RISD) มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพด้านศิลปะและการออกแบบของนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกา นำมาซึ่งการเปิดโอกาสด้านอาชีพทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศให้กว้างขึ้นสำหรับนักเรียนรุ่นต่อๆ ไป ซึ่งงานนี้ถือเป็นกิจกรรมครั้งแรกขององค์กรในการจัดแสดงผลงานศิลปะของนักเรียนไทยจากหลากหลายสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา
สำหรับนิทรรศการ “The Duality of Home” มีไฮไลต์ผลงานศิลปะหลากหลายแขนงและการออกแบบรูปแบบต่างๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวคำว่าบ้านในมุมมองใหม่จากความคิดสร้างสรรค์ และแรงบันดาลใจของนักเรียนไทยในสหรัฐอเมริกาทั้ง 20 คนที่ได้รับการคัดเลือกให้จัดแสดงงานในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบที่เป็นขั้วตรงข้ามแต่สามารถพึ่งพาและอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว ขาวดำ แสงเงา, ภาพยนตร์ที่นำเสนอเรื่องราวของความเพียรและการเติบโตท่ามกลางความรู้สึกแปลกแยกขณะที่อยู่ต่างแดน โดยเฉพาะในช่วงโรคระบาด, ผลงาน Only for the First Time จากแรงบันดาลใจจากการมองเห็นสัจธรรมของโลก แม้ว่าเวลาจะเดินไปข้างหน้าแต่สถานที่ยังคงเดิม ในขณะที่คนและความสัมพันธ์เปลี่ยนไป และบ้านไม่ใช่ที่อยู่ หรือที่ที่เราไปเที่ยว แต่หมายถึงคนที่เราอยู่ด้วย, การบอกเล่าถึงอัตลักษณ์ทางสังคมของนักศึกษาที่ผสานกับธรรมชาติของโลกสมัยใหม่ผ่านการเขียน และบทเพลง, การส่งต่อแนวคิดความเป็นไทย และความละเมียดละไมของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตแบบไทยๆ ด้วยการนำโลหะมาพับตามรูปแบบการพับใบเตย เกิดเป็นจุดบรรจบของสิ่งใหม่และสิ่งเก่าอย่างลงตัว, ผลงาน Stillness เป็นฟิวส์กลาส คือเทคนิคหลอมแก้ว ผ่านความ ร้อนสูง ให้เนื้อแก้วอ่อนตัวแล้วทําให้เกิดรูปทรง คล้ายกับเงาสะท้อนของนํ้า นับเป็นการแสดงออกซึ่งตัวตนอย่างเต็มที่ รวมทั้งการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านลวดลายแบบไทยดั้งเดิมบนสิ่งทอและเส้นด้าย ที่ได้แรงบันดาลใจจากความคึกคักและสีสันของตลาดกลางคืน
ตัวอย่างผลงานภายในงานนิทรรศการฯ อาทิ ผลงานชื่อ “กระทง” ของ ณัฐณิชา กิติยากร ณ อยุธยา จาก Rhode Island School of Design ผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นแนว Industrialเป็นการนำความต่างของ 2 วัฒนธรรมมาผสมผสานกัน โดยนำเหล็กแผ่นมาพับตามวิธีการพับใบเตยของไทย และนำมาประกอบเป็นรูปทรงกระทง และนำมาใส่ในกล่องที่มีแสงไฟด้านใน ทำให้เมื่อดูผ่านเลนส์จากกล้อง หรือมือถือ จะได้เงาสะท้อนของกระทงในมุมที่หลากหลาย และต่างไปจากเดิม ซึ่งกระทงก็เหมือนตนเองที่อยู่ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อมองจากมุมที่ต่างกัน ก็จะเห็นรูปทรงที่ต่างออกไป จึงนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ ส่วนตัวตนเองชอบทำงานศิลปะและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ออกแบบสิ่งต่างๆ เหมือนเป็นได้การพักผ่อน และช่วยให้มีสมาธิ
4 ผลงานภาพวาดสีน้ำมัน และสีอะครีลิคบนแคนวาส ชื่อ Escape Landscaping, Room # 104, Night Vision และ Between a portrait and a flower ของ ดมิสา วนาสวัสดิ์ จาก Rhode Island School of Design ได้แรงบันดาลใจในการสร้างผลงานมาจากการที่ได้เดินทางไปมาระหว่าง 2 ประเทศที่มีวัฒนธรรมที่ต่างกัน ทำให้รู้สึกว่าตนเองต้องมีความยืนหยุ่น และปรับตัวให้เข้ากับที่นั้นๆ จึงถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดแนว Abstract ที่ให้ความรู้สึกลื่นไหลเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันบางภาพก็สื่อถึงภายในจิตใจของตัวเองที่เหมือนห้องลับที่มีความสงบ นิ่งและเรียบง่ายอยู่ สำหรับการจัดแสดงผลงานในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ทำให้ตื่นเต้นมากที่จะได้มีคนเข้ามาชมผลงานของเราค่ะ
อีกหนึ่งความเอ็กซ์คลูซีฟกับกิจกรรม Creative’s Panel Talk การเสวนาแชร์ประสบการณ์จากผู้มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จด้านแฟชั่น, ศิลปะ, ดีไซน์และภาพยนตร์ อาทิ จงกล พลาฤทธิ์ แฟชั่นไดเรคเตอร์จาก Vogue Thailand, วสุ วิรัชศิลป์ สถาปนิกผู้ก่อตั้ง Vaslab ห้องทดลองทางสถาปัตยกรรม, พรทิพย์ อรรถการวงศ์ ครีเอทีฟไดเรคเตอร์ชื่อดังจาก ATT19, วิณ โชคคติวัฒน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและดีไซเนอร์แบรนด์ Vinn Patararin, กัลยา โกวิทวิสิทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง FabCafe Bangkok, จันทรา จันทร์พิทักษ์ชัย จิวเวลรี่ดีไซน์เนอร์แบรนด์ Leila Amulet และค็อด สตรูแสยง ผู้กำกับภาพยนตร์ ในวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566 เวลา 16.00 – 18.30 น.จำหน่ายบัตรราคา 650 บาท สำหรับ
ประชาชนทั่วไป และราคา 450 บาท สำหรับนักเรียนนักศึกษา บัตรมีจำนวนจำกัด ผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าร่วมงานเสวนาได้ที่ Instagram : @tcscollective หรือซื้อบัตรได้ที่หน้างาน
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการThe Duality of Home ได้ตั้งแต่วันนี้ – 20 สิงหาคม2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ Slowcombo ชั้น 3 ซอยจุฬา 50 โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ดูรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Instagram : @tcscollective หรือ ID Line : Tess.ktykra